วันนี้ทีมงาน Bm Movie ได้นำเรื่อง Carter คาร์เตอร์ สู้แหลกกระแทกตับ มารีวิวจ้า ภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องใหม่พร้อมแล้วที่จะส่งสายลับไร้ความทรงจำอย่าง จูวอน มาออกลีลาฝ่าด่านอันตรายสู่ความท้าทายของภารกิจสุดบ้าระห่ำ นำเสนอด้วยเทคนิกการถ่ายทำแบบลองเทคเพื่อเติมเต็มความมันส์ให้กระแทกถึงตาผู้ชม ก่อนจะไปรีวิวแบบจัดเต็มขอแนะนำว่าก่อนดูโปรดสูดหายใจให้เต็มปอด หนังเรื่องนี้บู๊มันส์ตลอดไม่เว้นวรรคให้พักแม้แต่นาทีเดียว
เรื่องย่อ
Carter เปิดฉากขึ้นด้วยการกล่าวถึงภาวะโรคระบาดที่กำลังกลืนกินแผ่นดินเกาหลีทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อลุกขึ้นมาฆ่าคนอย่างเลือดเย็นจนส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ส่งผลต่อ คาร์เตอร์ (รับบทโดย จูวอน) ชายหนุ่มผู้ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำ ซ้ำยังถูกไล่ล่าจากซีไอเอโดยไม่รู้เหตุผล มีเพียงเสียงของหญิงสาวส่งผ่านอุปกรณ์ที่ถูกฝังอยู่ในหูคอยกำกับชี้แนะว่าต้องทำอย่างไรจึงจะมีชีวิตรอด
คาร์เตอร์ได้รับมอบหมายภารกิจระดับชาติให้ตามหาเด็กหญิงที่ถูกลักพาตัวไป เธอกลายเป็นหนทางเดียวในการยุติวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเคยติดเชื้อแต่ผ่านการรักษาจนหายขาด เลือดของเธอจึงสามารถนำมาวิจัยเพื่อผลิตยารักษาได้ นอกจากการได้ช่วยโลกแล้ว ปฏิบัติการดังกล่าวยังเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้คาร์เตอร์ได้สืบหาตัวตนที่แท้จริง เขาจึงจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเข้าสู่เส้นทางอันเต็มไปด้วยอันตรายรอบด้าน พร้อมเผชิญศัตรูที่ประเดประดังเข้ามาไม่เลือกหน้าชนิดไม่รู้ว่าใครฝักฝ่ายใดกันแน่
Carter ภาพยนตร์ออริจินอลแนวเรียลไทม์แอ็กชันส่งตรงจาก Netflix ผลงานโดย ผู้กำกับจองบยองกิล มือฉมังแห่งหนังบู๊เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง Action Boys (2008) Confession of Murder (2012) และ The Villainess (2017) ซึ่งครั้งนี้รับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทร่วมกับ นักเขียนจองบยองชิก ผู้เป็นพี่ชายอีกเช่นเคย จากความเก๋าที่เคยพาผลงานคว้าแพคซังมาแล้วจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใด Carter จึงเป็นหนังที่หลายคนปักหมุดรอคอย เมื่อได้ดูแล้วจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
เรียลไทม์แอ็กชันที่ขายความมันส์แบบไม่อ้อมค้อม
ทางทีมงาน Bm Movie ได้เห็นว่า Carter เป็นภาพยนตร์ที่โฆษณาหนักมากถึง เทคนิกการถ่ายทำแบบลองเทค และ การดำเนินเรื่องแบบเรียลไทม์ เสมือนเรากำลังเล่นเกมผจญภัยไปกับหนึ่งตัวละครที่ต้องเก็บไอเท็มและต่อสู้ไปจนถึงบอสตัวสุดท้าย เช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่เล่าผ่านตัวละคร คาร์เตอร์ ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องโดยไม่มีการตัดสลับฉากไปมา ใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกเป็นตัวช่วยให้แต่ละฉากเชื่อมเข้าด้วยกันเป็นก้อนเดียว ยกให้เป็นความบ้าคลั่งของผู้กำกับที่พูดเลยว่าถ้าใจไม่ถึงคงไม่กล้าทำ สเกลของหนังไม่ใช่ VLOG ทัวร์ชมบ้านภายในสิบนาที หากแต่นี่เป็นการพาเราร่วมภารกิจของคาร์เตอร์ตั้งแต่เกาหลีใต้ไปจนสุดปลายทางที่เกาหลีเหนือ
เมื่อเส้นทางภารกิจของคาร์เตอร์ได้เริ่มขึ้นแล้ว ถึงคราวมหกรรมยำใหญ่ใส่คิวบู๊ได้ออกโรงทำงาน แน่นอนว่าชื่อชั้นของผู้กำกับจองบยองกิลทำให้เราได้เห็นฉากแอ็กชันลองเทคที่โคตรครบเครื่อง ไม่ว่าจะดวลกระสุนระยะไกล ตีรันฟันแทงด้วยของมีคมระยะประชิด สะกิดต่อมระทึกด้วยช็อตต่อสู้ในที่แคบ ออกหมัดสะบัดแข้งตั้งแต่บนหลังมอเตอร์ไซค์ เครื่องบิน โบกี้รถไฟ ลามไปถึงบนเฮลิคอปเตอร์ ไหนจะต้องกระเตงเด็กไปด้วยควงปืนกระหน่ำใส่ศัตรูไปด้วยอีก เชื่อเลยว่าทีมงานทรงงานหนักมากกว่าจะออกมาเป็นซีนแอ็กชันที่มันส์ระเบิดขนาดนี้ แม้บางฉากดูเหมือนนำของที่เคยเห็นจากผลงานเก่ามาขายใหม่ แต่พอเข้าใจได้ว่านี่เป็นความชัดเจนที่จะยึดมั่นในลายเซ็นตัวเองของผู้กำกับจองบยองกิล
แม้ตั้งใจมาขายงานแอ็กชันผ่านโปรดักชันระดับบล็อกบัสเตอร์แบบเต็มที่ ทว่าภายใต้ความเดือดเลือดสาดเหล่านั้นมีบางองค์ประกอบที่กระทบต่ออรรถรสในการรับชมอยู่ไม่น้อย งานภาพที่หลุดลุ่ยไม่ถึงขั้นเนี้ยบ เห็นรอยต่อของเทคนิกซีจีอย่างชัดเจนในหลายฉาก อีกทั้งการถ่ายทำด้วยอุปกรณ์หลายรูปแบบ มุมกล้องในฉากแอ็กชันจึงมักส่ายไปส่ายมา หมุนร้อยแปดสิบองศาฉวัดเฉวียนขึ้นลง เอฟเฟกต์เลือดสาดเนื้อขาดกระจุยสมองกระจายอาจไม่เหมาะกับคนดูบางกลุ่มที่เวียนหัวคลื่นไส้ได้ง่าย รวมไปถึงการออกแบบช็อตต่อสู้บางฉากที่ดูเหนือจริง เผลอลืมไปว่าตัวละครเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาทว่ากลับมีพละกำลังประหนึ่งเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็ไม่ปาน
เน้นหนักที่คิวบู๊ จนลืมดูมิติของเนื้อเรื่อง
จุดที่ทางทีมงาน Bm Movie คิดว่าน่าผิดหวังของ Carter คือบทภาพยนตร์ที่อ่อนปวกเปียกมากเหลือเกิน เข้าใจได้ว่าหนังต้องการขายความมันส์ของคิวแอ็กชันที่ผู้กำกับตั้งใจปลอยของจนหมดแม็กซ์ ถึงกระนั้นต้องยอมรับความจริงว่าพล็อตเรื่องก็เป็นหนึ่งองค์ประกอบที่ชี้วัดความน่าติดตามของเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบ น่าเสียดายที่เรื่องนี้มีดีเพียงความมันส์ ฉากแอ็กชันล้นทะลักแต่ไม่ได้เอื้อต่อการเล่าที่มาที่ไปของเนื้อหาแต่อย่างใด ขณะที่ชั้นเชิงแบบหนังสายลับกลับจืดชืดไม่เข้าขั้นแข็งแรงหรือสร้างความน่าประทับใจได้เลยแม้แต่ปมเดียว
ความจริงแล้วเนื้อหาสาระที่เปิดมาค่อนข้างทันสมัย พูดถึงวิกฤตโรคระบาดที่กระทบไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จนลุกลามไปถึงการแทรกแซงของสหรัฐอเมริกา นำตัวละครสมองเสื่อมมาผสมโรงเข้าไปอีก เรียกว่ามีของดีอยู่ในมือแท้ ๆ แต่กลับไม่ขยี้ให้ขาด ทั้งที่ทุกเส้นเรื่องสามารถใส่ลูกล่อลูกชนให้เราขนลุกชนชันได้มากกว่านี้ก็ไม่ยอมทำ หลายประเด็นเป็นเพียงการแตะผ่าน อยากหักมุมสไตล์หนังสายลับแต่ผิดองศาไปหน่อย ดราม่าครอบครัวซิกเนเจอร์เกาหลีให้มาน้อยจนไม่กระทบความรู้สึก อีกทั้งตอนจบที่ทำให้อิหยังวะอยู่พอสมควร จุดนี้อาจไม่ถูกใจมากนักสำหรับสายเสพเนื้อเรื่อง
การคัมแบ็กของ จูวอน ในฐานะเดอะแบกที่ไม่ทำให้ผิดหวัง
Carter ถือเป็นภาพยนตร์ในรอบเจ็ดปีของ จูวอน ที่แบกทั้งเรื่องเอาไว้จนหลังแทบหัก หากได้ดูแล้วเชื่อว่าจะสัมผัสได้ถึงความทุ่มสุดตัวเพื่อการกลับมาครั้งนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เข้ากับบทบาท ตัดผมสั้นเกรียน ปั้นหุ่นให้กำยำด้วยการออกกำลังกายอย่างหนัก รวมทั้งใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างโทนเสียงในการพูด รวมทั้งออกแบบรอยสักบนร่างกายด้วยตัวเอง ยกยอได้เต็มปากว่าความดิบเถื่อนของคาร์เตอร์ทำให้ลืมคาแรกเตอร์หนุ่มดอกไม้ของจูวอนไปอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่น่าชื่นชมมากกว่าการเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับบทบาทคือวินัยของจูวอน เขาตั้งใจอย่างมากที่จะพึ่งพาสตันท์แมนให้น้อยที่สุดในการถ่ายทำ จึงทุ่มเทฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างหนักกว่าสี่เดือนก่อนเปิดกล้อง ต้องจดจำคิวบู๊ที่ผู้กำกับออกแบบให้ฉากต่อฉาก ได้ดูแล้วยิ่งต้องชื่นชมเพราะเทคนิกการถ่ายทำที่ว่ายากแล้ว บรรดาโลเคชั่นทีมีครบทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศยังท้าทายและเสี่ยงตายมากขึ้นไปอีก ขอซูฮกให้ความเก่งกาจและยกให้เป็นมาสเตอร์พีซของจูวอนที่ดูแล้วต้องลืมไม่ลง
พูดได้เต็มปากว่า Carter เป็นภาพยนตร์ที่ตั้งใจขายงานแอ็กชันโดยเฉพาะ คอหนังที่ต้องการเสพความมันส์แบบร้อยแรงม้าได้ดูเรื่องนี้ไม่มีคำว่าผิดหวัง จัดเต็มทุกสรรพวิชาแห่งหนังบู๊มาให้ครบเครื่อง โหดเดือดเลือดสาดเกินมนุษย์มนาจนหาเหตุผลมาลบล้างความดิบเถื่อนเหล่านี้ไม่ได้เลย แม้ต้องแลกมาด้วยความน่าผิดหวังของเนื้อหาสาระที่ดูจืดชืดอยู่บ้าง แต่หากดูเอาความบันเทิงเรื่องนี้ก็เสิร์ฟความสนุกมาให้แบบไม่หวงของอยู่เหมือนกัน การันตีว่าไม่ใช่หนังที่ทำให้เสียเวลาเปล่าแน่นอน
ดูหนังออนไลน์ใหม่ๆได้ที่ >> BmMovie <<